จำเป็นด้วยหรือที่ออฟฟิศสำนักงานจะต้องดูราบเรียบภายใต้บรรยากาศที่จริงจังแบบเดิมๆ จนดูไร้เสน่ห์ คุณรู้หรือไม่ว่าบรรยากาศที่ดูราบเรียบจริงจังเป็นทางการเกินไป ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นข้อจำกัดและเข้าไปตีกรอบความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานได้เหมือนกัน หากว่าคุณกำลังต้องการแนวทางในการออกแบบสำนักงานเจ๋งๆ ให้การออกแบบนั้นให้ช่วยส่งเสริมบรรยากาศในการทำงานของพนักงาน และช่วยปรับภาพลักษณ์ขององค์กรให้ดูทันสมัย เราขอแนะนำให้คุณลองใส่ใจการออกแบบเรื่อง Element Lighting ปรับองค์ประกอบเรื่องแสงไฟให้มาสร้างบรรยากาศในการทำงานและช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้กับพนักงาน จะมี Lighting Design แบบไหนบ้างที่น่าสนใจมาดูกันเลย
ออกแบบสำนักงานเจ๋งๆ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ด้วย Lighting Design
1. Cove Indirect Lighting
การวาง Element Lighting ในรูปแบบนี้จะเป็นการติดตั้งไฟเอาไว้ตามหลืบฝ้าเพดานของออฟฟิศ เพื่อให้แสงไฟเกิดการกระทบด้านบน แสงสว่างที่ได้จะมีความสม่ำเสมอ ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลดูสบายตา
เหมาะกับออฟฟิศแบบไหน Lighting Design รูปแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งกับออฟฟิศที่มีการออกแบบฝ้าเพดานเป็นแบบซ่อนระบบไฟหรือมีการออกแบบให้บางห้องมีฝ้าเพดานแบบเล่นระดับ
ประโยชน์ที่ได้ Lighting Design ในรูปแบบนี้จะยิ่งทำให้ออฟฟิศดูสวย ทันสมัย และหรูหรามากยิ่งขึ้น เป็นแนวทางการออกแบบสำนักงานโมเดิร์นอีกแบบที่ให้กลิ่นอายแบบ Minimal Style เมื่อลดการติดตั้งโคมไฟจึงช่วยให้ภาพรวมของออฟฟิศดูโล่ง โปร่งสบาย จัดวางองค์ประกอบน้อยๆ แต่ก็ได้ความดูดีและมีสไตล์ ใช้แสงที่นุ่มนวลสบายตามาช่วยสร้างความเรียบง่าย เมื่อบรรยากาศดูผ่อนคลายจึงเป็นการช่วยเปิดพื้นที่การสร้างสรรค์ของพนักงานนั่นเอง
2. Case Lighting
Lighting Design แบบนี้จะเป็นการติดตั้งไฟให้มีตัวช่วยกรองแสง ซึ่งตัวกรองแสงอาจใช้ได้หลากหลาย จะเป็นกล่องกรองแสงไฟก็ได้ จะเป็นกระจกฝ้าก็ได้ เพื่อให้แสงที่ออกมาไม่สว่างเกินไป
เหมาะกับออฟฟิศแบบไหน รูปแบบนี้จะเหมาะกับออฟฟิศที่มีห้องจัดแสดงสินค้าหรือมีส่วนต้อนรับลูกค้า
ประโยชน์ที่ได้ Lighting Design ในรูปแบบนี้จะเป็นการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ในเรื่ององค์ประกอบแสงภายในพื้นที่ทำงาน อีกทั้งวัสดุที่นำมาช่วยกรองแสงนั้นสามารถเลือกใช้ได้หลายชนิดและยังจัดวางได้หลายแนว ทั้งแนวตั้งและแนวนอน หรือจะวางแบบทแยงนิดๆ ก็ทำได้ โดยใช้วิธีการให้แสงไฟสะท้อนกับผนัง ทำให้ห้องทำงานแต่ละห้องสามารถมีสไตล์และเอกลักษณ์เป็นของตนเองแบบไม่จำเจ นับเป็นอีกแนวทางในการออกแบบสำนักงานเจ๋งๆ โดยเล่นกับแสงไฟให้บรรยากาศห้องดูน่าสนใจ การเพิ่มลูกเล่นเรื่องแสงไฟแบบนี้จัดว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งต่อแรงบันดาลใจและไอเดียใหม่ให้กับพนักงานได้ดีเช่นกัน
3. Toe Kicks Lighting
รูปแบบนี้เป็นการติดตั้งไฟไว้ตามขอบทางเดินในระดับต่ำกว่าสายตา เพื่อให้แสงส่องกระทบด้านล่างและมีการสะท้อนขึ้นอย่างนุ่มนวล
เหมาะกับออฟฟิศแบบไหน Lighting Design รูปแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งกับออฟฟิศที่มีพื้นที่กว้าง มีแนวทางเดินที่ยาว หรือเป็นออฟฟิศที่มีหลายชั้น
ประโยชน์ที่ได้ Lighting Design ในรูปแบบนี้จะช่วยเชื่อมต่อแต่ละโซนแต่ละชั้นในออฟฟิศให้ดูกลมกลืนกัน พร้อมกันนั้นยังช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้ทางเดินหรือบันไดด้วย ไม่เพียงแค่นั้นแสงไฟที่ส่องกระทบลงพื้นหรือขั้นบันได จะเป็นแหล่งก่อกำเนิดความคิดสร้างสรรค์ ช่วยให้พนักงานก่อเกิดไอเดียใหม่บางอย่างในการทำงานได้ ตามแนวคอนเซปต์ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้ทุกที่ แม้จะเป็นพื้นที่รอยต่อก็ตาม การจัดไฟรูปแบบนี้ถือว่าเป็นแนวทางการออกแบบสำนักงานโมเดิร์นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยจริงๆ
4. Wall Washing Lighting
รูปแบบนี้เป็นการติดตั้งไฟซ่อนตามแนวผนังอาคาร จะเป็นการให้แสงส่องมาจากด้านบนแล้วตกกระทบกับผนังหรือผ้าม่าน
เหมาะกับออฟฟิศแบบไหน Lighting Design รูปแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งกับออฟฟิศที่มีการออกแบบผนัง หรือต้องการโชว์ผิวผนัง อย่างออฟฟิศที่ตกแต่งสไตล์ Loft หรือ ตกแต่งสไตล์ Modern
ประโยชน์ที่ได้ Lighting Design ในรูปแบบนี้ถือเป็นวิธีหนึ่งในการออกแบบสำนักงานเจ๋งๆ เพราะจะใช้ประโยชน์จากแสงไฟมาช่วยสร้าง Space ให้กับห้องทำงานหรือส่วนพื้นที่ต้อนรับ บางครั้งห้องหรือพื้นที่ทำงานที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์โต๊ะทำงานและอุปกรณ์ต่างๆ ก็ทำให้เกิดความรู้สึกสับสนวุ่นวาย การใช้แสงไฟจากด้านบนตกกระทบผนังหรือม่าน ก็จะช่วยสร้างพื้นที่ว่างด้านล่างให้กับห้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและทำให้พนักงานมีสมาธิในการโฟกัสงานได้ดีขึ้น
จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นว่าเรื่องแสงและความสว่าง มีผลต่อบรรยากาศและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานอยู่ไม่น้อย การจะออกแบบสำนักงานเจ๋งๆ จึงต้องให้ความสำคัญกับองค์ประกอบในเรื่องนี้ด้วย นอกจากนั้นแล้วฟังก์ชันในเรื่องของแสงและความสว่างยังมีบทบาทในการสะท้อนภาพลักษณ์ความทันสมัยขององค์กรได้อีกด้วย นับเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลยจริงๆ