การรีโนเวทออฟฟิศเพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่สมาร์ทออฟฟิศ ไม่ใช่การนำเอาเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาใส่ไว้ในออฟฟิศเท่านั้น แต่เทคโนโลยีที่นำเข้ามา จะต้องทำให้ออฟฟิศกลายเป็นพื้นที่ทำงานแห่งความสุข หรือ Happy Workplace จึงจะเรียกว่าเป็นสมาร์ท
ออฟฟิศที่แท้จริง และในบรรดาอุปกรณ์อัจฉริยะและเทคโนโลยีทั้งหมด สมาร์ทล็อคเกอร์คือองค์ประกอบที่สามารถสร้างความสงบสุข และนำมาซึ่งความสำเร็จในออฟฟิศได้

แนวคิดการออกแบบออฟฟิศอัจฉริยะคือการจัดสรรพื้นที่ทำงานให้มีอิสระแก่พนักงานมากขึ้น ทุกพื้นที่สามารถนำมาประยุกต์เพื่อใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งพนักงานไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะทำงานส่วนตัว ทุกแผนกสามารถเชื่อมต่อสื่อสารกันได้ทั้งหมด สมาร์ท
ล็อคเกอร์จึงมีบทบาทสำคัญในการจัดเก็บสิ่งของ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยแบบไร้สายอันทันสมัย ปัจจัยที่ทำให้สมาร์ทล็อคเกอร์
เป็นองค์ประกอบของความสำเร็จทางธุรกิจมีดังต่อไปนี้

รีโนเวทออฟฟิศด้วยสมาร์ทล็อคเกอร์ นำมาซึ่งความสำเร็จทางธุรกิจ

ในการออกแบบออฟฟิศอัจฉริยะ ตู้ล็อคเกอร์ดูเหมือนจะเป็นของใช้อย่างแรกที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับบรรยากาศการทำงาน สร้างความรู้สึกเชิงบวกให้กับพนักงาน อีกทั้งยังช่วยให้การดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย ดังเหตุผลต่อไปนี้

1. ช่วยลดความขัดแย้งของพนักงาน

ของใช้ส่วนตัวหายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นประจำกับการทำงานในออฟฟิศ ส่งผลให้พนักงานกล่าวโทษและจับผิดกันเอง แบ่งฝ่ายซึ่งกันและกัน และไม่โฟกัสกับการทำงาน ผลงานที่ออกมาจึงไม่น่าพอใจ การรีโนเวทออฟฟิศด้วยการนำสมาร์ทล็อคเกอร์มาใช้งาน จะช่วยขจัดปัญหาเรื่องของหายให้หมดไป พนักงานสามารถเก็บของใช้ส่วนตัวหรือสิ่งของมีค่าในล็อคเกอร์พร้อมใส่รหัสปลดล็อคส่วนตัว ระบบจะทำการแจ้งเตือนไปที่สมาร์ทโฟนของพนักงานทันทีที่มีบุคคลอื่นพยายามเปิดล็อคเกอร์

2. ดึงดูดให้คนเก่ง ๆ อยากร่วมงาน และสร้างความคิดบวกให้กับพนักงานเก่า

ด้วยความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยของสมาร์ทล็อคเกอร์ และรูปทรงที่โฉบเฉี่ยว ช่วยยกระดับออฟฟิศให้มีความน่าสนใจและดึงดูดให้คนเก่งมีความสามารถต้องการเข้ามาร่วมงานด้วย และเมื่อพนักงานเก่าได้เห็นคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานมากขึ้นจะช่วยให้มีกำลังใจและมีไฟในการโฟกัสกับงานที่ทำ เพื่อให้ผลงานออกมาดี จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าแนวทางการออกแบบออฟฟิศอัจฉริยะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของพนักงานเป็นอย่างมาก

3. ช่วยเพิ่มความสำเร็จให้กับการดำเนินธุรกิจ

การรีโนเวทออฟฟิศด้วยการเลือกจัดวางสมาร์ทล็อคเกอร์ตามจุดต่าง ๆ จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจมีความราบรื่นขึ้น และประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น เพราะสมาร์ทล็อคเกอร์ไม่ได้นำมาใช้เก็บสัมภาระของพนักงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถนำไปใช้เป็นตู้รับฝากสิ่งของอัจฉริยะ สำหรับรับฝากสัมภาระของลูกค้าที่จะมีเพียงลูกค้าเท่านั้นที่จะทราบรหัสปลดล็อค ด้วยระบบกำหนดรหัสด้วยตัวเอง นอกจากนี้สมาร์ทล็อคเกอร์ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ ในออฟฟิศได้ ไม่ว่าจะเป็นการจองล็อคเกอร์สำหรับลูกค้าที่เชื่อมต่อไปถึงการจองห้องประชุมในเวลาเดียวกัน หรือการแจ้งเตือนว่าจะมีพนักงานขายหรือพนักงานที่ไม่ได้อยู่ประจำออฟฟิศแวะเข้ามาทำงาน ระบบก็จะทำการจองล็อคเกอร์พร้อมทั้งจองโต๊ะทำงานให้พร้อมกัน เป็นต้น ด้วยความสะดวกที่ครบครันเหล่านี้สร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า และนำมาซึ่งความสำเร็จทางธุรกิจ

4. การออกแบบสไตล์ Modular

Modular Design คือรูปแบบอันโดดเด่นของสมาร์ทล็อคเกอร์ ที่ใช้เป็นแนวทางหลักในการรีโนเวทออฟฟิศ เพราะสไตล์ Modular จะออกแบบให้ล็อคเกอร์สามารถถอดประกอบ เพิ่ม-ลดจำนวนช่องของล็อคเกอร์ได้ตามพื้นที่การใช้งาน หรือตามความจำเป็นในการใช้งาน และเมื่อนำสไตล์ Modular มารวมกับเทคโนโลยี จึงทำให้สมาร์ทล็อคเกอร์สามารถคำนวนพื้นที่การใช้งานที่เหมาะสม และแสดงผลทางหน้าจอ เช่น ล็อคเกอร์นัมเบอร์นี้ไม่มีการใช้งานมาหลายสัปดาห์แล้ว ควรเฉลี่ยพื้นที่ภายในล็อคเกอร์ไปสู่ล็อคเกอร์นัมเบอร์อื่น ๆ ที่มีการใช้งานบ่อย หรือการแจ้งเตือนว่าพื้นที่จัดเก็บเริ่มไม่เพียงพอกับจำนวนพนักงาน ควรเพิ่มส่วนต่อขยายของล็อคเกอร์ออกไป เป็นต้น

5. เชื่อมพื้นที่การทำงานแบบไร้รอยต่อ

สมาร์ทล็อคเกอร์สามารถเลือกจัดวางได้ทุกพื้นที่ภายในออฟฟิศ ตามความต้องการใช้งานจริงของแต่ละแผนก ที่คำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของพนักงานเป็นหลัก เมื่อองค์กรได้เปลี่ยนผ่านจากรูปแบบทั่วไปสู่สมาร์ทออฟฟิศ สมาร์ทล็อคเกอร์จะช่วยให้พนักงานสามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ภายในออฟฟิศ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องสิ่งของสูญหาย อีกทั้งยังช่วยให้พนักงานติดต่อประสานงานกับแผนกอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่ เพราะสิ่งที่จะติดตัวพนักงานไปทุกที่คือสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกเล็กน้อย เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน สามารถโฟกัสกับงานได้มากขึ้น และหมดปัญหาเรื่องความเห็นต่างในแต่ละแผนก

อุปกรณ์อัจฉริยะสำหรับรีโนเวทออฟฟิศยังมีการต่อยอดพัฒนาขึ้นมาอีกมากมาย โดยคำนึงถึงการใช้งานได้จริงและสร้างความสุขในการทำงาน โดยการออกแบบสมาร์ทออฟฟิศไม่มีหลักเกณฑ์ที่ตายตัว เป็น Flexible Office ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม จึงอาจกล่าวได้ว่าสมาร์ทออฟฟิศที่แท้จริงคือออฟฟิศที่รู้ทันสถานการณ์ และสามารถรับมือได้อย่างไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ