แนวทางสำคัญในการออกแบบออฟฟิศให้สนับสนุนการสร้างสรรค์ไอเดีย การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไปจนถึงการส่งมอบคุณค่าจากพนักงานสู่องค์กร นั่นก็คือ การนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการพัฒนาออฟฟิศ โดยการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเปลี่ยนออฟฟิศแบบดั้งเดิมให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เปลี่ยนจากสถานที่ทำงานธรรมดาให้เป็นสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี สนับสนุนการทำงานร่วมกันของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในเส้นทางความสำเร็จของทุกบริษัท

เทคโนโลยีนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนสำนักงานเดิมให้เป็นสมาร์ทออฟฟิศ

1. การทำงานร่วมกันบนระบบคลาวด์ (Cloud) ด้วยรูปแบบการทำงานและพฤติกรรมของการสร้างงานที่เปลี่ยนไป บริษัทจำเป็นที่จะเพิ่มระบบซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยสนับสนุนการทำงานที่มีความคล่องตัว เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ผ่านการเชื่อมต่อกันด้วยอินเทอร์เน็ต เป็นระบบที่เข้ามาช่วยในการจัดเก็บข้อมูลที่มีความสะดวกและมีความปลอดภัยสูงอย่างระบบคลาวด์ (Cloud) เช่น Google Drive ที่เป็นพื้นที่สำหรับจัดเก็บเอกสารและส่งผ่านไฟล์ที่เกี่ยวกับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือจะเป็นการเลือกใช้ MS Teams ในการประชุมร่วมกัน หรือจะเป็นการทำงานผ่านเว็บบราวเซอร์ที่ทุกคนสามารถช่วยกันสร้างสรรค์งานได้จากทุกที่ ทุกเวลา

2. เปลี่ยนรูปแบบห้องประชุมด้วยสมาร์ทกลาส (Smart Glass) ในการออกแบบออฟฟิศให้เป็นออฟฟิศอัจฉริยะ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือการให้หนึ่งสถานที่สามารถใช้งานได้แบบ Multi-Function เช่น การออกแบบห้องประชุมของออฟฟิศให้สามารถรองรับความต้องการในการใช้งานได้ ทั้งแบบ Private Meeting หรือ Open Meeting ด้วย สมาร์ทกลาส (Smart Glass) กระจกที่มีคุณสมบัติการเปลี่ยนจากโปร่งใสเป็นทึบแสงได้ และควบคุมการทำงานผ่าน Switch เมื่อปรับให้กระจกทึบแสงจะสามารถใช้เป็นจอสำหรับฉายโปรเจคเตอร์ หรือสามารถจดบันทึกลงบนกระจกได้

3. สร้างสรรค์และระดมสมองด้วยอินเทอแอคทีฟบอร์ด (Interactive Board) สำหรับงานที่ต้องการไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ และการระดมสมองที่ต้องการความคล่องตัวและรวดเร็ว การออกแบบสำนักงานให้ทันสมัยด้วยการนำเทคโนโลยีอินเทอแอคทีฟบอร์ด (Interactive Board) มาใช้ จะช่วยให้พนักงานสามารถเขียนทุกไอเดียลงไปบนบอร์ดได้อย่างอิสระ ซึ่งสามารถควบคุมโดยการสัมผัสหรือเขียนบนหน้าจอ และสามารถนำข้อมูลที่ได้นั้นไปใช้ในการทำงานต่อได้ทันที ช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกความคิดและไอเดียสำคัญจะไม่ตกหล่นหรือสูญหาย

4. ระบบควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Control System) การเชื่อมต่อทุกอุปกรณ์ผ่านระบบควบคุมอัจฉริยะซึ่งเป็นการนำเอาเทคโนโลยี IoT มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่จะช่วยให้พนักงานสามารถทำการควบคุมอุปกรณ์ภายในสำนักงานได้อย่างสะดวกผ่าน Device ต่าง ๆ ที่ระบบนี้จะเปรียบได้กับการเป็นสะพานเชื่อมการทำงานทุกอย่างไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นระบบแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้น ให้การควบคุมสามารถทำได้ง่าย ประหยัดเวลา และสะดวกรวดเร็ว

การนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการพัฒนาออฟฟิศให้มีความทันสมัย ไม่เพียงแต่จะถูกนำมาใช้เพื่อเปลี่ยนการทำงานของบริษัทให้มีความทันสมัยมากขึ้นแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สิ่งนี้ยังเป็นเทรนด์ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานให้สูงขึ้นได้อีกด้วย จึงเป็น Solution ที่เหมาะสมและลงตัวมาก ๆ สำหรับองค์กรที่กำลังมองหาแนวทางในการเปลี่ยนแปลง ที่ต้องการจะปรับปรุงการทำงานรูปแบบเดิมให้กลายเป็นรูปแบบที่มีความทันสมัย และมีศักยภาพที่สูงขึ้น สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงในทุกธุรกิจและอุตสาหกรรม